Cancel culture วัฒนธรรมแห่งการ “แบน”

โดย Emmie I. ·

การเลิกสนับสนุนดาราหรือคนดัง เลิกบริโภคสินค้าจากบางแบรนด์เพราะความเห็นของเค้าไม่ตรงกับเรา หรือเพราะเค้าออกมาสนับสนุนบางสิ่งที่เราไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเชิงคำพูด พฤติกรรม ทัศนคติ หรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ  ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เราเรียกพฤติกรรมเหล่านี้ ว่า Cancel culture 

พูดง่ายๆ Cancel culture ก็คือ การแบนหรือการคว่ำบาตรทางออนไลน์

หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การขยายตัวของโลกโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้บริโภคมีอำนาจในมือ ทุกๆ ความเห็น ทุกๆ คำพูดที่หลุดปากออกไป กลายมาเป็นประเด็นดราม่าได้เสมอ ทั้งๆ ที่คนๆ นั้นอาจจะไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบโดยตรงกับปัญหาทางสังคมที่เกิดขึ้น เช่น เรื่องแนวคิดทางการเมือง, เพศสภาพ หรือแค่แสดงความคิดผิดฝั่ง ก็ถูกอีกฝ่ายแบนได้ง่ายๆ โดยจะมีการใช้ Hashtag ในโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างทีมต่อต้านใครบางคนอย่างจริงจัง 

ผลกระทบของพฤติกรรม Cancel culture

Cancel culture ทำให้เกิดสังคมของการไม่ให้อภัย พื้นที่ยืนของคนที่เห็นต่างกับสังคมส่วนใหญ่น้อยลงเรื่อยๆ การทนรับฟังความเห็นของคนอื่นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก เราเลือกที่จะโจมตีฝ่ายตรงข้ามที่เห็นต่าง เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นจึงถูกจำกัดบทบาท สิทธิเสรีภาพของเรากำลังถูกลิดรอนเพียงเพราะเราไม่อยากถูกแบน เราจึงเลือกที่จะเงียบ ทั้งๆที่เรามีอิสระที่จะบอกความคิดให้โลกทั้งใบรู้ 

ดังนั้นเราเองควรจะต้องเข้าใจและยอมรับว่าทุกคนบนโลกไม่สามารถมีความคิดเห็นแบบเดียวกันได้ทั้งหมด นอกจากนั้นไม่มีใครที่จะไม่เคยทำผิดพลาด และทุกคนอยากได้รับการอภัย อย่าพึ่งด่วนตัดสินคนอื่น และไม่พยายามแสดงหาความจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น 

แล้วคุณล่ะ กำลังเป็นส่วนหนึ่งของ Cancel culture หรือเปล่า?

  • ขอบคุณทุกคนที่อ่านน้า ถ้ามีข้อคิดเห็นหรือข้อแนะนำอะไร ติดต่อมาได้ที่นี่เล้ย labs@longdo.com 
  • นอกจากเรื่องนี้แล้ว เรายังมีเรื่องอื่นของสัปดาห์นี้อีกนะ
  • ยังไม่พอใช่ไหม? ไปดูคอนเทนต์รายสัปดาห์อื่นๆ ของเรากันที่นี่สิ 

บทความที่เกี่ยวข้อง

คอนเทนต์ใหม่ล่าสุด! จาก Longdo Labs #8

อะไรคือแนวเพลง City Pop และทำไมมันจึงกำลังเป็นกระแสไวรัล?

Word of the day: gaslighting แปลว่าอะไร ที่มาที่ไปมาจากไหน?